見出し画像

タイが誇るロックスター、バンク・プリーティのソロコンサート「The Nature of Sorrow」に感動 父と息子で体験した特別な一夜

先週の土曜日、息子と一緒にロックバンドCLASHのボーカリスト、バンク・プリーティのソロコンサートに足を運んだ。会場はタマサート大学の劇場だ。

プロムポンから電車に乗り、ラチャテーウィー駅で下車。そこから車に乗り換えてタマサート大学のタープラチャンキャンパスへと直行した。1934年創立の由緒あるこの大学を訪れるのは、実は初めてのことである。

王宮前広場の正面に堂々と建つ劇場が今夜のコンサート会場だ。到着すると、お揃いの黒いTシャツを着た人々の群れが目に飛び込んできた。Tシャツには「BANK」の文字が力強く描かれている。開演の1時間前というのに、すでに物凄い人だかりができていた。

CLASHは、タイのバンコクを拠点とするロックバンドである。2000年代初頭に高校生だったメンバーが「LUCIFER」という名前で結成しHot Wave Music Awardsコンテストに出場。3回目の出場で準優勝を果たし、MORE MUSICレーベル(GMM Grammy傘下)と契約した。

現在のメンバーは、ボーカルのバンク(ปรีติ บารมีอนันต์)、ギターのポン(คชภัค ผลธนโชติ)、ギターのヘック(ฐาปนา ณ บางช้าง)、ドラムのヤック(อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์)、ベースのスム(สุกฤษณ์ ศรีเปารยะ)の5人である。

CLASHは8枚のスタジオアルバムと6枚の特別アルバムをリリースし、GMM Grammy所属の他のアーティストとのコラボレーションアルバムにも参加している。また映画のサウンドトラック、ドラマ主題歌、CMソング、特別シングルなども手がけている。ボーカルのバンクは作曲の才能にも恵まれ、他のアーティストへの楽曲提供も行っている。

現在、メンバーはコロナによって活動をやむなく休止した際に始めた音楽活動以外の仕事がそれぞれに成功している。ポンはレーベル「BOX MUSIC」のエグゼクティブプロデューサーとしてインク・ワルントーンなどの歌手をプロデュースし、インクは不動の人気を得て2023年のサマーソニックin東京に出演。同じくギターのヘックはゲーム実況のインフルエンサー、スムはタイの自転車競技のタイ代表選手、ヤックは父となりお父さん業に忙しい。

CLASHは、タイ国内で最高の盛り上がりを見せたタイのロック界の伝説として称えられ、メディアや音楽賞から多くの賞を受賞している。また、バイクのCMキャラクターを務めたり、ナイキのキャンペーンに参加したりと、音楽以外の活動にも積極的である。

2010年、7枚目のアルバム『Nine Miss U 2』をリリース後、メンバーの音楽性の違いから解散を発表。

解散から4年後の2015年5月、バンクがメンバーと再会し、近い将来の再結成を示唆。バンクは、メンバーとの音楽活動がないことの寂しさを吐露し、良好な関係が続いていることを明かした。

2018年7月、7年ぶりに再結成。8月7日にシングル「Jai Yen Yen (ジャイ・イェン・イェン)」をGMM傘下のGRAND MUSIKからリリースして完全復活。9月15日には大規模なコンサート「Clash Awake Concert」を開催した。翌2019年には日本の北九州市と下関市で撮影したMVと新曲『LONELY』を発表し、2022年のタイ最大の野外音楽フェス「BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 12」では最終日のメインステージで大トリを飾った。しかしながら、各メンバーそれぞれの仕事が忙しくなり、バンドでのライブはそれ以降表立って行われていない。

彼のバンド、CLASHは休止状態とはいえ、ボーカルであるバンク・プリーティの人気ぶりを物語る光景に期待が膨らむ。ファンの熱気に包まれながら、コンサートの開演を待ち望んだ。

顔の広いバンクのコンサートだけあって、彼のスタッフはもちろん、色んなゲストにも会うことができた。驚いたのは、BNK48の日本で撮影したミュージックビデオの監督も来ていたことだ。日本で撮影された両作品、クラッシュの「ロンリー」撮影のクルーとBNK48の「ビリーバーズ」撮影のクルーがここで集結していた。このメンバーと一緒にいると、昔のことがまるで一瞬で蘇るようだった。

着席スタイルの会場で私は後方の席に着いた。客席は満席だが、落ち着いた雰囲気が漂っている。2000年代のタイロックシーンで一躍スターとなり、数々のヒット曲を持つCLASHだけあって、観客の年齢層は自分と同じくらいだ。

最近はヒップホップのイベントや、年齢層が広いフェスにばかり行っていたので、ミレニアム世代のコンサートは久しぶりの体験だ。しかし、タイもこれから本格的な高齢化社会を迎えようとしている。実際、2000年代のファッションや音楽などのミレニアム文化は、タイでもしっかりとした地位を確立し、一つのジャンルとして認知されている。アーティストの再結成や懐メロコンサートなども、今でも根強い人気を誇っているのだ。

一曲目が始まった。バンクの伸びやかな声とパワフルなボーカルに、いつも心を奪われる。才能あるボーカリストが曲に入る瞬間が好きなのだ。静かで力強いバラードは、バンクのソロ曲の特徴でもある。コンサートタイトル「The Nature of Sorrow」からも伝わるように、悲しい愛の歌が多い。初めてタイロックに衝撃を受けた時、観客がアーティストに負けないくらいの声で合唱していたが、このコンサートでも皆で歌った。皆んなきっとそれぞれの思い出に浸ったり、様々な感情に心を揺さぶられ、会場は感動に包まれていった。

劇場の舞台装置を活かしバンクが岩の上に立つシーンや、背景に映し出される壮大なスクリーンと曲が重なる演出は、まるでオペラを鑑賞しているような気分にさせた。途中、ロックの曲では見せたことのないバリトンの歌い方も披露し、新たな一面を見せる。以前、サイアムパラゴンのパラゴンホールでLUNA SEAの河村隆一さんがソロコンサートを行った際にも、バリトンの歌唱法を披露していたのを思い出した。

バンクは最初の白いロックスター風の衣装を脱ぎ捨て、いつもの黒いタンクトップ姿に変身した。後半はアップテンポな曲も交え、新曲の「ウェーオ・ター」では観客が総立ちとなった。バンクのテーマカラーである青いLEDを波のように掲げながら、CLASH時代の名曲を大合唱する場面も印象的だった。全部で17曲、バンクの歌声を存分に堪能することができた。コンサートの詳細は、後日公式ファンページで発表されるかもしれない。

このコンサートは先着順に席が割り振られるため、ファンは早朝から行列に並んでいたらしい。バンクはコンサートの最後に、そのファンに着ていた服をプレゼントすると約束していた。そしてコンサート鑑賞を終えて出口に向かうと、バンクの撮影チームが待っていてくれて、バンクに挨拶させてもらえることになった。普段彼とは盆栽や、日本の城や歴史の話ばかりしていてミュージシャンとしての彼とは接することが少ないので、とても緊張してしまう。でも、こんなに素晴らしいコンサートを成功させた彼は尊敬する友人だし、これからもっともっと活躍してもらいたいと心から思った。そんなバンクは今日から日本旅行に行く予定で、帰国したらまたタイ国内でのツアーが始まる。

2024年5月のツアー予定

タイに住んでいると色んなコンサートが見られる機会がある。そしてタイのアーティストたちはとても親日で、こうやって日本からのファンたちを受け入れてくれる。今回のコンサートはオンラインの申し込みだけで無料で見られるものだが、ブログにそれを書いたところ何人かの読者様が見に来てくれた。その中でも、タイ人の恋人と一緒に観に来られた方から、一生の思い出になったと御礼を言っていただけた。こうやって、音楽やアートを通じて、タイで人との実際の繋がりが広がっていくことにも感謝したい。

ノータイミュージック、ノータイライフ。

ร็อคสตาร์แห่งไทย "แบงค์ ปรีติ" จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวสุดประทับใจใน "The Nature of Sorrow" คุณพ่อและลูกชายร่วมสัมผัสค่ำคืนสุดพิเศษ (*แปลไทย)

ร็อคสตาร์แห่งไทย "แบงค์ ปรีติ" จัดคอนเสิร์ตเดี่ยวสุดประทับใจใน "The Nature of Sorrow" คุณพ่อและลูกชายร่วมสัมผัสค่ำคืนสุดพิเศษ

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมและลูกชายได้มีโอกาสไปชมคอนเสิร์ตเดี่ยวของ "แบงค์ ปรีติ" นักร้องนำวง CLASH ณ โรงละครมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

เราเดินทางจากสถานีพร้อมพงษ์ด้วยรถไฟฟ้า ลงที่สถานีราชเทวี จากนั้นต่อรถยนต์ไปยังมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนมหาวิทยาลัยที่เปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์แห่งนี้ ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2477

โรงละครที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า คือสถานที่จัดคอนเสิร์ตในค่ำคืนนี้ เมื่อมาถึง สิ่งแรกที่สะดุดตาคือกลุ่มผู้ชมที่สวมเสื้อยืดสีดำสกรีนชื่อ "BANK" อย่างเด่นชัด ทั้งที่ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม แต่ผู้คนกลับมารอคอยกันอย่างคับคั่งแล้ว

CLASH เป็นวงร็อคจากกรุงเทพฯ ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 2000 โดยสมาชิกที่ตอนนั้นยังเป็นนักเรียนมัธยมปลาย ใช้ชื่อวง "LUCIFER" เข้าร่วมประกวด Hot Wave Music Awards และคว้ารางวัลรองชนะเลิศในการเข้าประกวดครั้งที่ 3 จากนั้นจึงได้เซ็นสัญญากับค่าย MORE MUSIC (ในเครือ GMM Grammy) ปัจจุบันสมาชิกประกอบด้วย แบงค์ - ปรีติ บารมีอนันต์ (ร้องนำ), ป้อน - คชภัค ผลธนโชติ (กีตาร์), เฮ็ก - ฐาปนา ณ บางช้าง (กีตาร์), แจ็ค - อนันต์ ดาบเพ็ชรธิกรณ์ (กลอง), สุม - สุกฤษณ์ ศรีเปารยะ (เบส) CLASH ปล่อยอัลบั้มในสตูดิโอ 8 ชุด และอัลบั้มพิเศษอีก 6 ชุด ร่วมงานอัลบั้มคอลแลปกับศิลปินอื่น ๆ ในค่าย GMM Grammy รวมถึงแต่งเพลงให้ภาพยนตร์ เพลงประกอบละคร เพลงโฆษณา และซิงเกิลพิเศษอีกมากมาย นอกจากร้องเพลงเก่งแล้ว แบงค์ ปรีติยังมีพรสวรรค์ด้านการแต่งเพลง และแต่งเพลงให้ศิลปินอื่น ๆ ด้วย ปัจจุบัน เมื่อต้องพักการแสดงเพราะสถานการณ์โควิด สมาชิกแต่ละคนก็หันไปทำงานด้านอื่นนอกเหนือจากวงการเพลงอย่างประสบความสำเร็จ ป้อนรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์บริหารค่าย "BOX MUSIC" คอยดูแลศิลปินอย่างอิ้งค์ วรันธร ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จนได้ไปโชว์ที่เทศกาล Summer Sonic ประเทศญี่ปุ่นในปี 2023 ขณะที่เฮ็ก หันไปเป็นอินฟลูเอนเซอร์เกมสตรีมมิ่ง ส่วนสุมก็เป็นตัวแทนนักปั่นจักรยานทีมชาติไทย และแจ็คผันตัวมาเป็นคุณพ่อมือใหม่ งานยุ่งอยู่กับการเลี้ยงลูก CLASH ได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานร็อคไทยที่โด่งดังและได้รับสีสันที่สุดในประเทศ คว้ารางวัลมากมายจากสื่อและเวทีประกาศรางวัลเพลง และยังรับงานนอกวงการบันเทิง อย่างเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์ และร่วมแคมเปญกับ Nike ในปี 2010 ภายหลังปล่อยอัลบั้มชุดที่ 7 "Nine Miss U 2" วงได้ประกาศแยกทางกันเนื่องจากความแตกต่างทางดนตรีของสมาชิก 4 ปีให้หลัง เดือนพฤษภาคม ปี 2015 แบงค์ได้กลับมาพบปะสมาชิก และเปรยถึงโอกาสในการรวมวงอีกครั้ง โดยเขายอมรับว่าคิดถึงการทำกิจกรรมกับสมาชิก และกล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ยังคงดีของทั้งหมด ปี 2018 เดือนกรกฎาคม CLASH รวมวงอีกครั้งในรอบ 7 ปี และปล่อยซิงเกิล "Jai Yen Yen (ใจเย็นเย็น)" ผ่านค่าย GRAND MUSIK ในเครือ GMM ในวันที่ 7 สิงหาคมปีเดียวกัน ก่อนจะคัมแบ็คอย่างเป็นทางการด้วยคอนเสิร์ต "Clash Awake Concert" วันที่ 15 กันยายน ปีถัดมา 2019 วงได้ปล่อยเอ็มวีเพลงใหม่ "LONELY" ที่ถ่ายทำที่เมืองคิตะคิวชู และชิโมโนะเซกิ ประเทศญี่ปุ่น และเมื่อปี 2022 CLASH ได้รับเกียรติให้ขึ้นเป็นวงไฮไลต์ปิดเทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย "BIG MOUNTAIN MUSIC FESTIVAL 12" แต่หลังจากนั้น ด้วยความยุ่งของสมาชิกแต่ละคนจึงยังไม่มีคิวคอนเสิร์ตของวงอีกเลย

ถึงแม้ CLASH จะพักวงไปแต่เมื่อเห็นแฟน ๆ ที่หลั่งไหลมาชมคอนเสิร์ตเดี่ยวของแบงค์ ปรีติในค่ำคืนนี้ ก็ทำให้รู้ถึงความนิยมของเขา พวกเรารอคอยด้วยความตื่นเต้นท่ามกลางพลังงานอันเร่าร้อนจากแฟนเพลง

ด้วยความที่แบงค์มีเครือข่ายกว้างขวาง คอนเสิร์ตนี้จึงมีทั้งเหล่าทีมงานของเขา และแขกรับเชิญมากมาย ที่น่าประหลาดใจคือ ผู้กำกับมิวสิควิดีโอของ BNK48 ที่ถ่ายทำในญี่ปุ่นก็มาร่วมชมงานนี้ด้วย ทีมงานที่ถ่ายทำเอ็มวี "Lonely" ของ CLASH และเอ็มวี "Believers" ของ BNK48 ณ ประเทศญี่ปุ่น ได้มารวมตัวกันที่นี่ การได้อยู่ท่ามกลางคนกลุ่มนี้ ทำให้รำลึกถึงช่วงเวลาในอดีตที่ผ่านมา

ผมได้นั่งเก้าอี้แถวหลังของฮอลล์ ทุกที่นั่งเต็มไปหมด แต่บรรยากาศโดยรวมยังคงให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ในยุค 2000 CLASH เป็นวงที่โด่งดังมากในวงการร็อคไทย มีเพลงฮิตมากมาย จึงไม่แปลกที่ผู้ชมส่วนใหญ่จะอายุไล่เลี่ยกับผม

ช่วงหลัง ๆ มานี้ ผมไปชมแต่คอนเสิร์ตฮิปฮอปหรือเทศกาลดนตรีที่มีผู้ชมหลากหลายช่วงวัย การได้กลับมาชมคอนเสิร์ตที่แฟน ๆ ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นมิลเลนเนียลอย่างนี้จึงถือเป็นประสบการณ์ที่ห่างหายไปนาน อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว แท้จริงแล้ว วัฒนธรรมยุคมิลเลนเนียลอย่างแฟชั่นและดนตรีในช่วงปี 2000 ได้สร้างบทบาทสำคัญในสังคมไทย และได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในแนวดนตรีหลักของประเทศ การรวมวงอีกครั้งของศิลปินและคอนเสิร์ตเพลงฮิตยุคคลาสสิกก็ยังได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย

คอนเสิร์ตเริ่มต้นขึ้นด้วยเพลงแรก เสียงร้องที่นุ่มนวลแต่ทรงพลังของแบงค์ก็ยังคงเรียกสติและครองใจผมเช่นเคย ช่วงเวลาที่นักร้องมากความสามารถกำลังจะเริ่มต้นเปล่งเสียงเพลงเป็นช่วงเวลาที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษ บัลลาดที่เงียบสงบแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังแบบนี้เป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเพลงเดี่ยวแบงค์ ชื่อคอนเสิร์ต "The Nature of Sorrow" บ่งบอกได้ถึงเนื้อหาของเพลงส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับความรักอันเศร้าหมอง ในครั้งแรกที่ผมตกตะลึงกับร็อคไทย ก็เห็นแฟนเพลงพากันร้องประสานเสียงกับศิลปินอย่างดุเดือด ในคอนเสิร์ตนี้ก็เช่นกัน ทุกคนร่วมกันขับขานถึงรัก ย้อนรำลึกความหลังกับคนรักเก่า และปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกไหลเวียนไปในแต่ละท่วงทำนอง ฮอลล์คอนเสิร์ตอบอวลไปด้วยพลังแห่งความซาบซึ้ง

เวทีได้รับการออกแบบอย่างดีให้เข้ากับบรรยากาศของโรงละคร เราได้เห็นแบงค์ยืนอยู่บนหินผาจำลอง มีจอขนาดยักษ์ฉายภาพตระการตาประกอบกับดนตรี ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังชมโอเปร่าอยู่ ในช่วงกลางคอนเสิร์ต เขายังแสดงลูกคอด้วยการร้องแนวบาริโทนซึ่งไม่เคยได้ยินในเพลงร็อคมาก่อน โชว์มุมมองใหม่ให้แฟน ๆ ได้เห็น ผมนึกถึงตอนที่ริวอิจิ คาวามูระ แห่งวง LUNA SEA มาจัดคอนเสิร์ตเดี่ยวที่พารากอนฮอลล์ สยามพารากอน เขาก็แสดงเทคนิคการร้องแบบบาริโทนในคอนเสิร์ตนั้นเช่นกัน

แบงค์ถอดเสื้อสีขาวสไตล์ร็อคสตาร์ที่ใส่มาตั้งแต่ต้นออก เผยให้เห็นเสื้อกล้ามสีดำสุดคลาสสิกที่เป็นเสมือนเครื่องหมายการค้าของเขา ช่วงหลังคอนเสิร์ตมีเพลงที่มีจังหวะสนุกสนานยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเพลงใหม่อย่าง "Wao Tah" ที่ทำเอาผู้ชมทั้งฮอลล์ลุกขึ้นยืน นอกจากนี้ การที่แฟน ๆ ช่วยกันโบกแท่งไฟ LED สีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำตัวของแบงค์ ประกอบกับการร้องเพลงฮิตสมัย CLASH ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตเด็ดของค่ำคืนนี้ ผมสนุกไปกับเสียงร้องของแบงค์ตลอด 17 เพลง รายละเอียดของคอนเสิร์ตอาจจะมีการประกาศในแฟนเพจอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

การจัดที่นั่งในคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นระบบมาก่อนได้ก่อน แฟน ๆ จึงต้องมาต่อแถวกันตั้งแต่เช้าตรู่ แบงค์สัญญาว่าจะมอบเสื้อที่ใส่ในคอนเสิร์ตให้กับแฟนคลับที่มาเข้าคิวกันในวันนั้น และเมื่อคอนเสิร์ตจบลง ระหว่างที่เดินไปทางประตูทางออก ทีมช่างภาพของแบงค์ก็รออยู่เพื่อเปิดโอกาสให้เราได้ทักทายกับเขา ปกติผมมักจะคุยกับเขาแต่เรื่องต้นบอนไซ ปราสาท และประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ไม่ค่อยได้มีโอกาสพบปะกับเขาในฐานะนักดนตรี จึงรู้สึกตื่นเต้นมาก แต่การที่เขาสามารถจัดคอนเสิร์ตที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้สำเร็จ ทำให้ผมเคารพในตัวเขาในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง และหวังว่าจะได้เห็นผลงานที่ยอดเยี่ยมจากเขาอีกในอนาคต วันนี้แบงค์จะออกเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น และเมื่อกลับมาเขาก็จะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตในประเทศไทยอีกครั้ง

การใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทยทำให้ผมมีโอกาสไปชมคอนเสิร์ตหลากหลายรูปแบบ ศิลปินไทยก็เป็นมิตรกับคนญี่ปุ่นมาก และพร้อมต้อนรับแฟนเพลงอย่างอบอุ่นแบบนี้เสมอ ที่น่าทึ่งคือคอนเสิร์ตครั้งนี้สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแค่ลงทะเบียนออนไลน์ พอผมเขียนเรื่องนี้ลงในบล็อก ก็มีผู้อ่านหลายคนสนใจมาร่วมชมคอนเสิร์ต และมีคู่รักชาวไทยคู่หนึ่งที่มาด้วยกัน ได้เขียนข้อความขอบคุณมาบอกว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นความทรงจำที่ดีตลอดชีวิตของพวกเขาเลยทีเดียว การที่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมดนตรีและศิลปะเช่นนี้ ทำให้ผมได้สานสัมพันธ์กับผู้คนในประเทศไทยอย่างใกล้ชิดมากขึ้น นับเป็นเรื่องที่น่าซาบซึ้งใจมาก ไม่มีดนตรีไทย ก็ไม่มีชีวิตในแบบฉบับคนไทย

#バンクプリーティ #タイロック #CLASH #コンサート #タマサート大学 #ミレニアル世代 #タイ音楽シーン #親日アーティスト #音楽で紡ぐ絆 #ノータイミュージックノータイライフ

この記事が気に入ったらサポートをしてみませんか?